เช็กให้ชัวร์ก่อนเชื่อ 4 สาเหตุทำให้เกิด ผมร่วง ?

Last updated: 25 ม.ค. 2567  |  829 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เช็กให้ชัวร์ก่อนเชื่อ 4 สาเหตุทำให้เกิด ผมร่วง ?

เส้นผมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราดูดีและเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง เหมือนกับที่เคยมีคำพูดที่ว่า “อย่าคิดว่าตัวเองไม่สวย ให้ลองอาบน้ำสระผมดูก่อน” หรือที่ดาราสาว ‘ปอย ตรีชฎา’ เคยบอกไว้ว่าไม่หล่อไม่สวยไม่เป็นไม่เป็นไรแต่ต้องสะอาด และการรักษาความสะอาดของผู้หญิงคือการสระผม

แต่เส้นผมบนหัวเราก็มีปัญหาร้อยแปด การดูแลเส้นผมไม่ได้มีเพียงแค่การสระผมเป็นอย่างเดียว แต่ทั้งต้องหมั่นออกกำลังกาย หรือเลือกแชมพูให้เข้ากับหนังศีรษะของเราเอง ถ้าหากดูแลไม่ดีก็อาจทำให้เกิดผมร่วงผมบางหรือทำให้หนังศีรษะเป็นแผลหรือรังแคได้

และรณภีร์เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องเคยได้ยินสาเหตุเกี่ยวกับผมร่วงมาจากหลาย ๆ ที่ ซึ่งบ้างก็เป็นความจริงแต่บางเรื่องก็ไม่ได้เป็นความจริง เพราะฉะนั้นบทความนี้จะยก 4 ความเชื่อสาเหตุผมร่วงที่เคยได้ยินมาว่าจริงหรือไม่ อันไหนผิดอันไหนถูก

1. เขาบอกว่าลดน้ำหนักทำให้ผมร่วง

การลดน้ำหนักแล้วทำให้ผมร่วงนั้นผิดหรือถูก ? ขอบอกเลยว่า ทั้งผิดและทั้งถูก จริง ๆ แล้วการลดน้ำหนักไม่ได้ทำให้ผมร่วงถ้าออกกำลังกายถูกวิธี หรือออกตามคำวินิจฉัยของแพทย์ แต่คนส่วนใหญ่ที่ต้องการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วนมักจะใช้วิธีรวบรัดอย่างการอดอาหารหรือการกินยาลดน้ำหนัก ซึ่งมันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้องเพราะร่างกายไม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนเท่าที่ร่างกายต้องการ

เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารน้อยส่งผลให้พลังงานที่ร่างกายจะดึงไปใช้มันก็น้อยตามไปด้วย ทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะอดอาหาร แต่ร่างกายจำเป็นต้องดึงสารอาหารที่มีไปใช้ตลอดเวลา เมื่อสารอาหารมันไม่เพียงพอทำให้เกิดการดึงจากของเก่าหรือที่มันกลายเป็นของเสีย (อุจจาระ) มาใช้แทน และจะถูกดึงไปให้สมองและหัวใจก่อนเป็นอันดับแรก

ส่วนเส้นผมมีเซลล์รากผมที่ไม่ได้นับว่าเป็นอวัยวะสำคัญ ทำให้ในช่วงอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักส่งผลให้วงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมเปลี่ยนไป (สามารถอ่านบทความวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ที่นี่) ทำให้ระยะการเจริญเติบโตหรือ Anagen Phase เปลี่ยนไปเป็นระยะพักของเส้นผมหรือ Telogen Phase ระยะที่ทำให้เกิดผมร่วงได้ ส่

ผลให้เส้นผมร่วงมากกว่าปกติ ในคนปกติเส้นผมจะร่วงไม่เกิน 100 เส้นต่อวัน แต่ในคนที่สารอาหารในร่างกายไม่เพียงพอเส้นผมอาจจะร่วงได้มากกว่า 150 เส้นหรือบางรายอาจร่วงเกิน 600 เส้นต่อวันได้เลย

2. ห้ามกินผงชูรสเยอะนะไม่งั้นผมจะร่วง !

หลาย ๆ คนชอบพูดจนติดปากหรือโดนเตือนจนหนาหูว่าอย่ากินผงชูรสเยอะหรือในปริมาณมากนะ ระวังผมร่วง ! ความเชื่อนี้ขอบอกเลยว่า ไม่จริง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังไม่มีวิจัยที่ไหนออกมาเลยว่าผงชูรสคือสาเหตุการเกิดผมร่วง

จริง ๆ แล้วผงชูรสคือ โมโนโซเดียมกลูตาเมต (Monosodium Glitamate) ที่เป็นสารประกอบของโซเดียมและกลูตาเมต ที่เป็นกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งทั้งโซเดียมและกรดอะมิโนกลูตามิกไม่มีฤทธิ์หรือกลไกใด ๆ ที่ทำให้เกิดผมร่วงได้เลย ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าผงชูรสไม่ทำให้ผมร่วงแน่นอน

3. กินเหล้าเยอะนะช่วงนี้ เดี๋ยวผมร่วงนะเธอ

การดื่มแอลกอฮอล์นั้นส่งผลให้เส้นผมขาดหลุดร่วงจริงหรือไม่ ขอตอบว่า จริง ค่ะ เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดของร่างกายแย่ และพิษของแอลกอฮอล์สามารถไปยับยั้งไม่ให้ร่างกายผลิตวิตามิน B ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารและแร่ธาตุได้ไม่เต็มที่ 

โดยวิตามิน B ธาตุเหล็กและสังกะสีนั้นจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมอย่างมาก  เมื่อร่างกายขาดไปก็ทำให้เซลล์ผิวหนังและรูขุมขนไม่แข็งแรงจึงเป็นสาเหตุของการเกิดเส้นผมขาดหลุดร่วงตามมา

นอกจากนั้นการดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้ระดับกรดโฟลิกลดลงอีก ซึ่งกรดโฟลิกเป็นสารอาหารสำคัญของเส้นผม เมื่อขาดกรดนี้ไปก็ทำให้เส้นผมอ่อนแอขาดง่าย เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผมร่วง

4. อย่ากินยาคุมบ่อยสิ มันทำให้ผมร่วง !

กินยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนทำให้ผมร่วงจริงหรือไม่ คำตอบคือ ไม่จริง ค่ะ หากทานยาคุมกำเนิดที่ตรงกับที่ร่างกายต้องการ หรือเรียกอีกอย่างว่าเลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนที่ตรงกับร่างกายที่ตนเองต้องการจะไม่ทำให้เกิดผมร่วงแต่อย่างใก

แต่ในคนที่กินยาคุมที่ถูกกับตนเองแล้วแต่ผมยังร่วงนั้นเป็นเพราะว่าในผู้หญิงบางคนมีร่างกายที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดผมร่วงได้ แต่ก็จะร่วงในระยะ 3 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะมีเส้นผมงอกขึ้นมาใหม่ตามปกติ

หลังจากที่อ่านบทความนี้จบแล้วหวังว่าจะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องผมร่วงกันได้มากขึ้น ยังไงก็อย่าเชื่อคำพูดคนอื่นมากเกินไปแต่ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมกันด้วยนะค้า เพราะบางเรื่องที่พูด ๆ ต่อกันมาก็ไม่จริงค่า

อ้างอิงข้อมูลจาก

Source

Source

Source

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้